นักบินฝึกหัดหญิง ‘เสียชีวิต’ จากการติดเชื้อหลัง ถูกยุงกัด

นักบินฝึกหัดหญิง ‘เสียชีวิต’ จากการติดเชื้อหลัง ถูกยุงกัด

ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการ “เสียชีวิต” ของ นักบินฝึกหัดหญิง รายหนึ่ง ที่มีสาเหตุมากจากการติดเชื้อหลัง ถูกยุงกัด ตรงหน้าผาก (8 ก.ค. 2565) แม้ว่าจะผ่านมาได้ร่วมปีหนึ่งแล้วนั้น แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าเป็นอย่างยิ่งกับการ เสียชีวิต จากการติดเชื้อหลัง ถูกยุงกัด ตรงหน้าผากของ นักบินฝึกหัดหญิง รายหนึ่ง จากประเทศสหราชอาณาจักร

โดยรายละเอียดของเรื่องราวนี้นั้นก็คือ Oriana Pepper 

นักบินฝึกหัดรายหนึ่งจาก Bury St Edmunds, Suffolk, สหราชอาณาจักร ซึ่งเธอนั้นได้ผ่านการสอบภาคทฤษฏี ของหลักสูตร EasyJet จากมหาวิทยาลัย Oxford เพื่อเป็นนักบินประจำสายการบินพาณิชย์ สิ่งหนึ่งที่เหลือก็คือการสอบภาคปฏิบัติที่ต้องไปดำเนินการ ณ เมือง Antwerp ประเทศเบลเยียม

แต่นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ณ เมือง Antwerp, Oriana ได้ถูกกัดโดยยุงในพื้นที่บริเวณหน้าผากของเธอ ที่ในวันต่อมา (7 ก.ค. 2564) เธอก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากอาการติดเชื้อได้รุกลาม และแพทย์ผู้ทำการรักษาได้แจ้งว่ายาปฏิชีวนะไม่มีผลในการยับยั้งเชื้อแต่อย่างใด

หลังจากนั้นอีก 2 วัน เธอได้ล้มหมดสติลงต่อแฟนหนุ่ม ผู้ซึ่งนำตัวเธอไปส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง โดยในวันที่ 21 ก.ค. 2564 เธอก็ได้เสียชีวิต เนื่องจากการติดเชื้อรุกลามไปยังสมอง และต้นเหตุจาก “การติดเชื้อจากแมลงที่กัดเธอบริเวณหน้าผาก”

แพทย์ผู้ทำการรักษาได้อธิบายว่า “การติดเชื้อเริ่มจากช่องโหว่ของผิวหนังที่มาจากการกัดของแมลง และได้เข้าสู่หลอดเลือด carotid artery บริเวณลำคอ ก่อนที่จะลามไปยัง septic emboli ในสมอง ในท้ายที่สุด” พร้อมทั้งยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าตัวแพทย์เองก็ยังไม่เคยพบเจอกรณีแบบนี้มาก่อน

ทางด้านครอบครัวของ Oriana ก็ได้แสดงความโศกเศร้าเสียใจต่อการจากไปของลูกสาวของตน โดยกล่าวว่า เธอมีความฝันจะขับเครื่องบินให้กับครอบครัว และมีความฝันจะทำงานท่ามกลางท้องฟ้า นอกจากนี้แล้วนั้นทางครอบครัวก็ได้ถึงการเตรียมตั้งกองทุนขนาดเล็กสำหรับการช่วยเหลือผู้หญิงที่มีความต้องการจะศึกษาเพื่อเป็นนักบิน โดยกองทุนก็ได้รับความมือจากสมาคมนักบินหญิงของประเทศอังกฤษด้วย

หลังจากที่ได้มีการรายงานถึงข่าวเหตุการณ์ลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น – ชินโซ อาเบะ ก็ได้มีการเผยแพร่กันเป็นจำนวนมากของภาพและ คลิปเหตุการณ์ลอบสังหาร ในหลายมุมด้วยกัน (8 ก.ค. 2565) เมื่อเช้าวันนี้ ได้เกิดเหตุการณ์การลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น – ชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) ที่ซึ่งในเวลานี้ยังไม่ทราบถึงชะตากรรมที่แน่ชัดว่านายอาเบะนั้น จะเป็นอย่างไรกันแน่ ในขณะเดียวกันนั้น ก็ได้มีการแพร่กระจายกันอย่างกว้างขวางของภาพและ คลิปเหตุการณ์ลอบสังหาร ดังกล่าว

ซึ่งก็มีตั้งแต่คลิปวิดีโอในนาทีเกิดเหตุในหลายมุมตั้งแต่ภาพจากมุมสูง, ภาพจากมุมหน้า ขณะที่นายชินโซกำลังกล่าวปราศัยอยู่ และช่วงเวลาที่ทีมงานรักษาความปลอดภัยเข้ารวบตัวผู้ก่อเหตุด้วย

ในส่วนของรายละเอียดเบื้องต้นนั้น ผู้ก่อเหตุได้ทำการใช้งานอาวุธปืนประดิษฐ์ โดยใช้งานท่อน้ำเหล็ก 2 ท่อ (ทำหน้าที่เป็นลำกล้องปืน), เทปกาว (ยึดโครงสร้างอาวุธเข้าด้วยกัน), ไม้ (ฐานของปืน) และกลไกการยิงแบบไฟฟ้า (ใช้งานการจุดไฟด้วยไฟฟ้า เพื่อจุดฉนวนกระสุน) ซึ่งก็มีการวิเคราะห์กันว่ามันมีลักษณะการทำงานแบบเดียวกันกับปืนคาบศิลา หรือปืนแบบ Flintlock นั้นเอง (ในที่นี้ก็ทำงานแบบ Blunderbuss – ต้นตระกูลของปืนลูกซอง)

ตึงเครียด สื่อเผย ชินโซ อาเบะ ไม่มีสัญญาณชีพจรหลังถูกยิง หวั่น เสียชีวิต

ทั่วโลกยังคงจับตาความคืบหน้ากรณี ชินโซ อาเบะ ถูกยิง เผย ไม่มีสัญญาณชีพจรหลังถูกยิง หวั่น เสียชีวิต ขณะมือปืนถูกจับแล้ว เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม สำนักข่าว NHK รายงานความคืบหน้าล่าสุด หลัง ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นถูกยิงระหว่างการหาเสียง ก่อนการเลือกตั้ง ในจังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.30 น.

สำนักข่าวรายงานอ้างอิงจากหน่วยดับเพลิงว่า นาย อาเบะ ไม่มีสัญญาณชีพจร จากการที่ถูกยิงที่บริเวณอก เลือดไหลออกมา และมีรายงานว่าได้ยินเสียงปืนชัดเจนด้วย

ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเผยว่า นาย อาเบะ ถูกยิงด้วยปืนช็อตกันจากบริเวณด้านหลัง และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมจะนำตัวของนาย ชินโซ อาเบะ นำส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า การจับกุมครั้ง มาจากข้อมูลภายในของตำรวจ ที่สืบทราบว่า อาจมีการลักลอบเล่นการพนัน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นบ่อนพนันของชาวต่างชาติ แต่บริเวณดังกล่าว มีชาวต่างชาติพักอาศัยจำนวนมาก จึงมีการชักชวนกันเข้าเล่นพนันบริเวณจุดดังกล่าว ซึ่งนักพนัน ที่เป็นชาวต่างชาติ ก็จะมีการประสานสถานทูตฯ ดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกัน จะมีการตรวจสอบข้อมูลผู้เช่าพื้นที่อีกครั้ง ว่าเป็นบุคคลใด รวมทั้ง ต้องมีการสอบสวนผู้ให้เช่าพื้นที่ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ หากมีส่วนก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย

หลังการจับกุมทำให้สืบทราบด้วยว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหา หรือ พระครูปลัดกิตติพันธ์ หนีคดีนั้น เจ้าตัวไม่ได้มีการลาสิกขาแต่อย่างใด โดยยังคงห่มผ้าเหลืองย้อนกลับมาอยู่ที่วัดเดิมที่เคยก่อเหตุ

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น