โตโน่เต้นท่าสตาร์ทรถ นักแสดงจอมว่ายน้ำเล่าแล้ว พูดเอง อย่าเรียกว่าท่าดีกว่าครับ หลังชาวเน็ตแห่ขุดคลิปตอนร้องเพลงใส่สเต็ปโชว์มัดกล้ามจนแฟนเพลงเม้มปาก เจ้าตัวย้ำพยายามยืนร้องนิ่ง ๆ แล้ว แต่ทำไม่ได้ เรียกว่าตั้งแต่ว่ายน้ำเสร็จกระแสก็ดีไม่มีตกเลยทีเดียวสำหรับ “หนุ่มโตโน่” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ โดยหลังจากโลกโซเชียลแห่กันขุดคลิปที่หวานใจ ณิชา ณัฏฐณิชา ไปออกสเต็ปลีลาท่าทางโยกย้ายแบบเดือด ๆ ตั้งแต่การถอดเสื้อร้องเพลงโชว์มัดกล้าม เขย่าเอวจนคนดูเม้มปาก ลามไปล่าสุดกับท่าสตาร์ตรถที่คนเห็นแล้วขำ จนเอาไปทำเป็นคอนเทนต์มากมาย
ล่าสุด โตโน่ ก็ได้ออกมาเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งกำลังเป็นกระแสบนโซเชียลพร้อมกับไขข้อสงสัยถึงที่มาท่าสตาร์ตรถนี้มาจากไหน
โดยเมื่อวันที่ 16 พ.ย.65 นักแสดงหนุ่มได้ออกมาเผยผ่านรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน ระบุ วันดังกล่าวตอนที่โยกตัวอยู่บนเวทีนั้น หนุ่มโตโน่บอกว่าได้พยายามจะยืนร้องนิ่ง ๆ ดูแล้ว แต่ทำไม่ได้ โดยท่าทางแบบนี้ไม่ได้เพิ่งมาเป็น แต่เป็นมานานแล้ว พยายามจับขาตัวเองยืนแล้ว แต่ทำไม่ได้ มีคนบอกว่าเป็นท่าสตาร์ตมอเตอร์ไซค์ ตนเต้นไม่เป็น ก็ไม่รู้ว่าท่านี้จะเกิดขึ้น
ส่วนประเด็นที่มีคนเลียนแบบนั้นเห็นแล้วตลกดี (หัวเราะ) ไม่คิดว่าคนจะเต้นท่านี้ตาม แต่ยังไงขอให้ทุกคนสนุกกับการสตาร์ตมอเตอร์ไซค์ครั้งนี้
มีข่าวมาให้แฟนคลับได้ติดตามกันอีกแล้วกับ ‘ติ๊นา ศุภนาฎ จิตตลีลา‘ นักแสดงสาวหล่อ เมื่อล่าสุด (13 พ.ย. 65) ทางเจ้าตัวได้มีการออกมาโพสต์ภาพคู่หอมหัว ‘ออม สุชาร์ มานะยิ่ง‘ คู่จิ้นที่ทำให้หวนคิดถึงความน่ารักในวันวานเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ในภาพยนตร์เรื่อง ‘Yes or No อยากรัก ก็รักเลย‘ เคมีเข้ากันตัวละคร ‘คิม-พาย‘ ยังอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน
โดยทาง ติ๊นา ได้โพสต์ภาพดังกล่าวผ่านทางบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว หลังควงสาว ออม ไปเดินเที่ยวที่ย่านเยาวราช พร้อมแนบแคปชั่นหวาน รักนะสุชาร์ ระบุว่า “รักนะสุชาร์ 😊💕 #เป็นห่วงเป็นใยแต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน #คู่จิ้นในตำนานที่ยังมีลมหายใจ”
งานนี้พอภาพของ ติ๊นา-ออม ถูกแชร์ออกไปได้ไม่นานก็ทำเอาเหล่าบรรดาแฟนคลับและเพื่อน ๆ ในวงการบันเทิงต่างแห่กันเข้ามาคอมเมนต์ที่ใต้โพสต์ดังกล่าว เพื่อจิ้นเคมีความน่ารักของทั้งคู่กันยกใหญ่ เช่น
“หอมหัว หัวหอม🥰💖”, “คิมพาย 💛”, “ตำนานคู่จิ้น”, “oh my god i was watching again yes or no 1 now and you two post like this 😭😍 ah cute couple kimpie ❤️”, “คิดถึงทั้งคู่เลอ”, ฯลฯ
แพท เคลียร์ชัดหลังโดนโยงมั่วเป็นญาติกับแก๊งเด็กช่างโหด
แพท ณปภา ชี้แจงลแล้วหลังนักข่าวโทรหาไม่ยุดปมโดนโยง หนึ่งในกลุ่มนักเรียนช่างกลอุ้มเหยื่อซ้อมทารุณ มีความเกี่ยวข้องเป็นหลานกับนักแสดงหญิงคนดัง ย้ำชัดคนนามสกุลเดียวกับเธอมีเยอะมาก ตัวเองไม่มีส่สวนเกี่ยวข้องใดๆ กับกลุ่มเด็กช่างที่กำลังเป็นข่างดังแน่นอน
จากกรณีคดีสะเทือนขวัญกลุ่มนักเรียนช่างกลอุ้มวัยรุ่นต่างสถาบันไปซ้อมทารุณร่างกายในซอยรามคำแหง 63 เขตหัวหมาก กรุงเทพฯ โดยต่อมามีประเด็นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุพบเป็นหลาของนักแสดงสาวชื่อดังในวงการบันเทิงซึ่งวานนี้ (15 พ.ย.65) ทนายรณณงค์ แก้วเพ็ชร์ นักฎหมายที่ดูแลคดีให้กับเหยื่อที่ถูกซ้อมโหดออกมาเรียกร้องให้ดารานักแสดงชื่อดังที่นามสกุลเดียวกับหนึ่งในวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ชี้แจงว่ามีความเกี่ยวข้องเป็นหลานจริงหรือไม่ เนื่องจากตอนรับทราบข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่าเป็นหลาน
ทั้งนี้ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลดั้งกล่าว โลกโซเชียลลอดจนเสียงวิจารณืของสังคมก็พากันสงสัยว่า นักแสดงชื่อดังมีเอี่ยวกับผู้ก่อเหตุสุดป่เถื่อนเที่ยวนี้จริงหรือไม่ เช่นเดียวกับที่หลายคนพยายามสืบค้นว่า นักแสดงที่ทนายรณณรงค์กล่าวถึงนั้นคือใคร และล่าสุดวันนี้ แพท ณปภา ตันตระกูล ดาราหญิงที่หลายคนรู้จักกันดีก็ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว หลังหลายคนพากันสงสัยว่าอาจจะเป็นนักแสดงที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเด็กช่างกลผู้ก่อเหตุ
โดย แพท ได้ไลฟ์ชี้แจงผ่านบัญชีโซเชียลของตัวเองหลังมีนักข่าวติดต่อโทรเข้ามาสอบถามเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักแสดงสาวแกร่งก็อธิบายเลคียร์ชัดเจนว่า เรื่องคนที่นามสกุลเดียวกับเธอนั้นมีเยอะมาก
นอกจากนี้แพท ยังยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับกลุ่มนักเรียนช่างกลที่กำลังเป็นข่าวซ้อมทรมานเถื่อนแต่อย่างใด
“ตอนที่ทราบว่าตัวเองมีชื่อไปพัวพันก็ยังงๆ อยู่ ก็อยากให้ถามแพทก่อนว่ารู้จักกับเด็กคนนั้นจริงไหม อยากรู้เหมือนกันว่าออกมาพูดเพื่ออะไร เพื่อให้แพทออกมานั่งเป็นข่าวและต้องมานั่งแถลงแบบนี้ จนกลายเป็นตนเองต้องมานั่งถามคนในครอบครัวว่ารู้จักเด็กคนนี้ไหม และถ้าพูดกันตรง ๆ ฝั่งคุณย่าทวดมีพี่น้องและหลานอีกนับไม่ถ้วน ดังนั้นขอยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กคนนั้นเลย บางคนไม่รู้จักกันเลย แต่ใช่นามสกุลเดียวกัน คือเป็นญาติทางไหนก็ไม่รู้ ” เนื้อหาทั้งหมดที่ แพท ณปภา ดาราสาวคนดังออกมายันชัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวกรณีเด็กช่างอุ้มคู่อริไปทารุณโหด
หลังจากที่พี่เลี้ยงและพีดีพูดคุยกันเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 ว่าจะให้น้องสละตำแหน่ง จะไม่ปลด แต่ต้องมาคุยกันว่าจะสลับตำแหน่งเรื่องอะไร เพราะพี่ดีไม่เอาน้องแล้วเพราะน้องทำให้เสียภาพลักษณ์ขององค์กร และพีดีบอกทางทีมว่าเดี๋ยวจะมีการปรึกษาทางกองก่อนและจะทักมาประชุมผ่านกลุ่มไลน์ก่อน ค่อยสละตำแหน่ง แต่ไม่มีการตอบกลับมาใดๆ จนกระทั้งมีเรื่องปลดเกิดขึ้นคะ
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ 777 ดัมมี่